รู้มั้ย...สาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าพังซ้ำไปซ้ำมา ไม่จบสิ้น คืออะไร?

หลายครั้งแล้วหรือเปล่าที่ต้องมานั่งร้องไห้ มานั่งกลุ้มใจว่า “ไม่น่าทำแบบนั้น แบบนี้เลย” เพราะผิวดั๊นมาพังในเวลาที่ไม่พร้อม ใครเคยรักษาจนหน้ากลับมาดีแล้ว ก็มีเหตุที่ผิวกลับไปพังอีก 2-3 รอบ ไม่มีช่วงที่ผิวจะดีได้ยาว ๆ กับเขาบ้างเลย พี่วิวเชื่อว่าทุกคนอยากมีผิวหน้าเรียบเนียน สุขภาพดีกันทั้งนั้น แล้วสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ผิวต้องแบกรับคำว่า “พัง” ซ้ำไปซ้ำมา เพราะปัจจัยภายนอกหรือเพราะมือของเราเอง อยากรู้ไปอ่านกันเลยค่ะ

1.หน้าดีขึ้นแล้วชอบเปลี่ยนสกินแคร์ไปมา

ผิวมีโอกาสระคายเคืองสูงมากถ้าคุณเปลี่ยนสกินแคร์ไปมา เพราะว่าผิวหน้าของเราบอบบางกว่าผิวหนังส่วนอื่นและไวต่อสกินแคร์มาก ถ้าแพ้ก็แพ้หนัก ถ้าดีก็ดีเลิศเลย ยิ่งคนที่รักษาจนผิวดี สิวหายมาแล้ว ชอบคิดว่าพอแล้วแหละ หายแล้ว ไปใช้สกินแคร์อื่น ๆ ที่อยากใช้ได้แล้ว ก็ทิ้งสกินแคร์ดีที่เคยใช้ไปใช้ครีมอื่นที่ไม่รู้ว่าจะแพ้หรือเปล่า...ไม่ได้หาข้อมูลส่วนประกอบ ไม่มีการรับรอง เห็นคนอื่นใช้ดีก็ว่าดี ถ้าไม่แพ้ก็โชคดีไป แต่ถ้าใช้ครีมตามกระแส ครีมที่ผสมสารสเตียรอยด์ สารปรอท ก็แจ็คพอตเลย หน้าพังอีกแล้ว....

2.ไม่พอใจผิวที่เป็นอยู่ ใช้ครีมตามกระแส

ข้อนี้ก็ต่อเนื่องมาจากข้อ 1 ค่ะ บางคนเห็นหน้าดีขึ้นมาแล้ว แต่ไม่ให้เวลาสกินแคร์ที่ใช้อยู่บำรุงผิวให้ดีขึ้นอีก แข็งแรงกว่านี้อีก ทนไม่ไหว ไปใช้ครีมตามกระแส ครีมหน้าขาว ครีมหน้าใส ครีมรักษาสิว (ที่ไม่รู้ว่ารักษาจริงหรือเปล่า) ผลลัพธ์ที่คุณคุ้นเคยก็คือ...หน้าพังอีกแล้ว ต้องกลับมาซบครีมเดิมที่เคยใช้ แล้วถ้าคุณยังไม่เข็ด ก็วนอยู่ในวงเวียนนี้ตลอดไป บางทีผิวหน้าอาจเสียหายมาก กู้กลับให้กลับมาเนียน ใส ไร้ร่อยรอยเลวร้ายเหมือนเดิมไม่ได้แล้วด้วย

3.รู้ว่าแพ้แต่ไม่ยอมหยุดใช้

อันนี้จากประสบการณ์จริงเลยค่ะ ลูกค้ามักจะมาปรึกษาว่าใช้ครีมตัวหนึ่งแต่มีสิวขึ้น ก็หยุดใช้ไปใช้ครีมที่ไม่ระคายเคือง ไม่แพ้ สิวยุบหมดแล้ว วันดีคืนดีเกิดอาการเสียดาย! ...ลองใช้อีกรอบ ครั้งนี้อาจจะไม่แพ้ก็ได้ ทาปุ๊บ สิวขึ้น ผื่นขึ้นอีกแล้วว ไม่น่าเลยยย..พี่วิวบอกเลยว่าอย่าเสียดายครีมที่ไม่ถูกกับผิวเราเลยค่ะ จะถูกหลักสิบหรือแพงหลักหมื่นก็ตัดใจทิ้งหรือให้คนอื่นไปเถอะค่ะ เพราะผลที่ได้ไม่คุ้มเสียเลย

4.ไม่รักษาความอะอาดสิ่งของรอบตัว

นอกจากสกินแคร์ประทินผิวแล้ว สิ่งของเครื่องใช้ที่เราใช้ประจำวันนี่แหละค่ะ มีผลทำให้ผิวพังซ้ำๆได้ ไม่ว่าจะโทรศัพท์ ผ้าห่ม ปลอกหมอน เครื่องนอน หมวกหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่มีโอกาสสัมผัสใบหน้า หมั่นเช็ดโทรศัพท์ให้สะอาด ซักปลอกหมอนให้ปราศจากฝุ่น คราบเหงื่อไคล ล้างพัดลมบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้มีฝุ่นเกาะหนาตึ๊บ เพราะลมที่มากับฝุ่นนี่แหละค่ะทำให้เป็นสิวได้ หน้าพังได้ทุกทางจริงๆ

5.ไม่จัดการเหงื่อระหว่างวัน

ระหว่างวัน อากาศร้อนอบอ้าว ร้อนแห้ง ร้อนแทบไหม้ หน้ามีจะเหงื่อและความมันออกมาตลอดเวลา ทำให้เป็นผื่นคัน แสบผิว เป็นสิวอักเสบ สิวอุดตันได้ค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการกับเหงื่อและความมันส่วนเกินระหว่างวันด้วยการใช้ทิชชู่เปียกซับหน้า เช็ดได้ทั้งเหงื่อและความมันส่วนเกิน แต่ถ้าใครที่แต่งหน้าก็ซับเบาๆ จะรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายอีกต่างหาก

6.สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าไม่มีพัก

อันนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลจริง ๆ ค่ะ แต่พี่วิวอยากจะบอกว่าทั้ง 2 อย่างนี้ทำให้ผิวโทรมลงแบบติดจรวด! ทั้งกระตุ้นสิว ผิวแก่ก่อนวัย มีริ้วรอย หน้าหมองคล้ำ หน้ามันง่าย ใช้สกินแคร์ดีเท่าไรถ้าป้อนผลเสียใส่ร่างกายเยอะเกินไปผิวก็ฟื้นยาก ใครที่สูบบุหรี่วันละหลายมวน ไปดริงค์ ไปปาร์ตี้ไม่เว้นวัน ระวังผิวพังไม่มีเว้นเหมือนกันนะจ๊ะ

7.อดหลับอดนอน

หลายครั้งที่ร่างกายฟ้องว่า ไม่ไหวแล้ววววว ด้วยการมีสิวขึ้น หน้าหมองโทรม มันเยิ้มเกือบทอดไข่ได้ ใช้อะไรก็แพ้ไปหมด เพราะเจ้าของร่างกายไม่นอนหลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่ได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผิวพังซ้ำไปซ้ำมาแบบสมบูรณ์แบบเลยค่ะ ลองมีเวลาพักผ่อนให้กับตัวเอง นอนหลับให้เพียงพอเป็นประจำ เท่านี้ก็ลดโอกาสที่ผิวจะพังไม่จบสิ้นแล้วค่ะ

ยังมีอีกหลายอย่างเลยค่ะที่ทำให้ผิวของเราแย่ลง แต่ก็อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ การทำงาน การดำเนินชีวิตของแต่ละคนด้วยนะคะ ถ้าคุณหาเจอว่าอะไรที่เป็นข้อขัดขวางผิวดี ๆ มาตลอด ขอให้หลีกเลี่ยงสิ่งนั้นให้ได้ คุณก็จะไม่พบกับคำว่า “ผิวพัง” อีกเลยตลอดชีวิตค่ะ