ช่วงที่กำลังรักษาสิวเป็นช่วงวัดใจว่าหน้าจะดีขึ้นมั้ย.. หลายคนชอบไปเน้นอยู่กับยารักษาสิวและสกินแคร์ที่ใช้ หวังเต็มที่ว่าจะรักษาสิวให้หายได้เร็ว จนลื๊มมลืมว่า สิ่งที่เราปฏิบัติอยู่ทุกวันอาจกระตุ้นให้สิวหายช้าหรือเป็นต้นเหตุของสิว ยิ่งเราปฏิบัติตัวได้เหมาะสมเท่าไร สิวก็ยิ่งหายไว ดีขึ้นแบบตามไม่ทัน แล้วต้องทำอะไรบ้างหล่ะ? วันนี้พี่วิวจะมาแนะนำให้ค่ะ...

                1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่นผัก ผลไม้ สมุนไพร เนื้อสัตว์ดี ๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว ผิวได้รับวิตามินที่จำเป็น เป็นการดีท็อกซ์สารพิษในร่างกายด้วย ควรหลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ รสเผ็ดจัด ทอดด้วยน้ำมันเยอะฉ่ำๆ ของหวานมาก  ชีส ขนมปัง ของหมักดองและแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เกิดสารอักเสบมากขึ้น ทำให้ผิวอักเสบง่าย รักษาสิวเท่าไรก็ไม่หายสักที

                2.ขับถ่ายทุกวันให้เป็นเวลา ทั้งถ่ายหนักและถ่ายเบา เพราะร่างกายจะได้ไม่มีของเสียตกค้างในลำไส้ สังเกตจากคนที่ท้องผูกบ่อย ๆ จนเรื้อรังจะมีสิวขึ้นตามหน้าผาก คาง มุมปากอยู่ตลอด ช่วงที่รักษาสิวจึงควรทานอาหารที่มีกากใยเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายเป็นปกติ ลดโอกาสเกิดสิวไปได้เยอะเลย

                3.นอนหลับให้เพียงพอ บางคนเข้าใจว่า “แค่นอนก็เพียงพอแล้ว” แต่ไม่เสมอไปค่ะ ร่างกายของคนเรามีเวลาชาร์จแบตเตอรี่และฟื้นฟูร่างกายช่วงเที่ยงคืน ถ้าเรานอนเลยจากเวลานี้ก็ไม่แปลกที่สิวจะขึ้น เข้านอนไวยังไงก็ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่ แถมยังไม่เพลียระหว่างวันด้วย ส่วนใครที่มีภาระหน้าที่ต้องทำงานตอนกลางคืนก็ต้องปฏิบัติข้ออื่น ๆ อย่างเคร่งครัด มีเวลาต้องรีบพักผ่อนเลยค่ะ

                4.รักษาความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้รอบตัว ทั้งเสื้อผ้า ปลอกหมอน ที่นอน โทรศัพท์มือถือและสิ่งของที่ต้องสัมผัสกับใบหน้า เพื่อลดโอการเกิดสิวเพิ่ม ทั้งยังช่วยให้เรารู้สึกสะอาด สดชื่น ไม่ป่วยง่ายอีกด้วย ที่สำคัญคือต้องรักษาความสะอาดของผิวหน้าให้ดี หลังล้างหน้าซับด้วยกระดาษเช็ดหน้า งดใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวเช็ดหน้าเพราะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ทำให้สิวไม่หายขาดค่ะ

                5.ดื่มน้ำเยอะ ๆ หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องดื่มน้ำให้ได้วันละ 7-8 แก้ว ซึ่งถูกต้องค่ะ แต่เราควรแบ่งเป็นจิบน้ำตลอดวัน ถ้าหากดื่มน้ำมีเดียวร่างกายจะเสียสมดุล ปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายดูดซึมน้ำได้ไม่เต็มที่ ถ้าเรากินน้ำอย่างถูกต้องจะช่วยลดผิวแห้งขาดน้ำ ลดการอักเสบของสิว ลดการสร้างน้ำมันใต้ผิวได้ค่ะ

                6.งดแต่งหน้าระหว่างรักษาสิว เพราะส่วนประกอบในเครื่องสำอางอาจทำให้เกิดการอุดตันและระคายเคืองได้ค่ะ ยิ่งการแต่งหน้าเป็นการสัมผัสหน้าซ้ำ ๆ ทุกวัน ผิวยิ่งช้ำ อักเสบง่าย ลองงดแต่งหน้าไปก่อนพอผิวดีขึ้นแล้วจึงกลับมาแต่งหน้าได้ตามปกติ อีกอย่างหนึ่งคือไม่ควรแต่งหน้าไปออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ผิวขับเหงื่อไม่สะดวก ทำให้เกิดสิวหนักกว่าเดิม

                7.ใช้แชมพูสระผมที่อ่อนโยน ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เพราะเวลาเราสระผมคงเผลอไม่ได้ที่ฟองละโดนหน้าผาก ไหลลงมาที่หน้า เพราะฉะนั้นป้องกันด้วยการใช้แชมพูเด็ก แชมพูออร์แกนิค หรือที่ระบุว่าปราศจากน้ำหอม สี ซิลิโคน SLS/SLES ซัลเฟตต่าง ๆ นะคะ

                8.หลีกเลี่ยงการตากแดดแรง ๆ เพราะจะทำให้ผิวโดนรังสียูวีทำร้าย ผิวจะไหม้ แห้งเกรียม เห่อแดง ทำให้สิวหายช้า ผิวหนังอักเสบมากกว่าเดิม แต่ถ้าทำงานกลางแจ้งต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งนะคะ โดยเลือกที่คนเป็นสิวใช้ได้ อ่อนโยน ไม่กระตุ้นให้เกิดสิว ไม่อุดตันรูขุมขน

                9.ปรับจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียดคิดมาก หางานอดิเรกที่ทำให้เราไม่จดจ่อกับสิวบนผิวหน้า ไม่ส่องกระจกบ่อย ๆ เพราะจะทำให้เราอยากบีบสิว อยากสัมผัสหน้า ลองเพิ่มเวลาความสุขให้ตัวเอง อาจจะฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ ออกไปชมวิวทิวทัศน์ ยิ่งจิตใจเราเบิกบานยิ่งเป็นผลดีต่อผิวทำให้สิวหายไวขึ้นค่ะ

                แม้จะมียาหรือสกินแคร์ดีแค่ไหน แต่ถ้าเรายังไม่ปฏิบัติตัวให้เหมาะสม เอื้ออำนวยให้ร่างกายรักษาตัวเองได้เร็ว สิวก็ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตแน่นอนค่ะ ถ้าปฏิบัติตาม 9 ข้อที่พี่วิวแนะนำให้วันนี้ควบคู่กับการใช้สกินแคร์ที่ดี ปลอดภัยและเห็นผล เรื่องสิวบนหน้าจะกลายเป็นแค่เรื่องสิวๆ ไม่เป็นปัญหากับเราอีกต่อไปค่ะ