หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > 4 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิว
4 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิว
4 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิว
10 Mar, 2021 / By w1512258
Images/Blog/51rr3rTA-Artboard 15mdpi.png

เชื่อว่าหลายๆ คนได้เห็นการฉีดวิตามินผิว หรือดริปวิตามินเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมกันมากขึ้นในช่วงเวลานี้ใช่มั้ยคะ ทำให้มีคนไม่น้อยตัดสินใจฉีดวิตามินผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ในระยะเวลาอันสั้น เหมือนทางลัด..

 

ซึ่งราคาก็มีตั้งแต่500-5000ต่อครั้ง หรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว วันนี้เวลพาโน่จึงมีข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิว วิธีนี้จะเหมาะกับเราไหม? ฉีดกี่ครั้งผิวถึงจะใส? ดีจริงอย่างรีวิวหรือเปล่า มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? เริ่มกันเลยค่ะ

 

👉 การฉีดวิตามินผิวใส คืออะไร?

 

“IV Therapy ย่อมาจาก Intravenous Therapy” หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “Vitamin Drip” เป็นการฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆตามสูตรเข้าสู่สารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ดูดซึมได้ที่มากกว่าวิธีอื่นๆ

 

ซึ่งตัวยาที่ออกฤทธิ์หลัก ก็คือวิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก

 

 

👉 การฉีดวิตามินผิวใส เหมาะกับใคร?

 

1. คนที่ไม่ค่อยมีเวลา พักผ่อนน้อย

2. ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส

3. คนที่มีผิวแห้งกร้าน

4. คนที่เป็นภูมิแพ้ เป็นหวัดง่าย

 

👉 การฉีดวิตามินผิวใส ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

 

1. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตต่ำ โรคหัวใจที่ต้องรักษาด้วยยาหลายชนิด

2. หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร

3. คนที่มีประวัติแพ้ยา หรือวิตามินที่เป็นรูปแบบการฉีด

4. คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกิน เพราะเมื่อฉีดวิตามินซีจะเข้าไปในร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้

5. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำเป็นต้น

6. ผู้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ

 

ซึ่งก่อนฉีด ควรได้รับคำแนะนำกับทางแพทย์ก่อนทุกเคส และควรทำหัตถการโดยแพทย์เท่านั้น

 

👉 ฉีดวิตามินผิว มีผลข้างเคียงไหม?

 

การฉีดวิตามินเข้าผิว ถ้าใช้ตัวยาที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ส่วนผลข้างเคียงที่เจอได้จะเป็นรอยเข็มที่เกิดจากการฉีด ซึ่งรอยเหล่านี้สามารถหายไปได้เองภายใน 1-3 วัน อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไปฉีดวิตามินผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน

 

แต่ในช่วงที่ฉีดวิตามินผิวนั้นต้องหลีกเลี่ยงแสงทุกชนิดโดยเฉพาะแดด เพราะช่วงนี้ผิวจะไวต่อแดดมากๆ ค่ะ

 

ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิว ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน ว่าการฉีดวิตามินผิวเหมาะกับเราหรือไม่ ตอบโจทย์มากน้อยเพียงใด หากเราต้องการแก้ไขปัญหาผิวชั่วคราวก็อาจจะทำได้ แต่หากให้ผิวกระจ่างใสอย่างยั่งยืน อาจจะต้องฉีดไปตลอด

 

ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ด้วยค่าใช้จ่ายในการฉีดต่อครั้งค่อยข้างแพงกว่าวิธีอื่นๆ แล้วต้องทำบ่อยๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง กลับกันหากเราใช้วิธีดูแลตัวเอง ปรับพฤติกรรมบางอย่าง และทานอาหารเสริมบางส่วน ก็มีส่วนทำให้ผิวกระจ่างใสได้อย่างยั่งยืนเช่นเดียวกัน แต่เพียงไม่ต้องเจ็บตัวฉีดผิวทุกอาทิตย์ค่ะ

 

👉 วิธีดูแลผิวอย่างยั่งยืน

 

1. ปรับพฤติกรรมที่ทำให้ผิวโทรม เช่นการพักผ่อนน้อย นอนดึก ให้กลับมานอนอย่างน้อย 7-8ชั่วโมง และก่อน23:00น. เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองในตอนที่เราหลับอย่างเต็มที่นะคะ

 

2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5หมู่ สร้างนิสัยการขับถ่ายทุกวันในช่วงเช้า ข้อนี้จะยิ่งช่วยให้เกิดการกระตุ้นการไหลเวียนที่ดีขึ้นในร่างกาย ผิวพรรณจะใสขึ้น ผ่องเนียน ไม่มีสิวมากวนใจค่ะ

 

3. ลดปัจจัยที่ก่อความเครียด หรืออนุมูลอิสระ อย่างดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เหล่านี้ต้องงด จะช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำลงได้

 

4. ทานอาหารเสริม หรือวิตามินผิว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพราะบางครั้งในชีวิตเราบางทีเกิดความเร่งรีบ ทำให้เราดูแลตัวเองน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ หรือทางร่างกายอื่นๆตามมา หากเป็นเช่นนี้ก็สามารถหาอาหารเสริมทานได้

 

 

อย่างเช่น  วิตามินผิว Azitra และคอลลาเจน Colla-More ทานคู่กัน ก็ช่วยลดปัญหาผิว และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวได้ด้วยนะคะ

ใครเป็นสิวอักเสบ รอยดำ-รอยแดงจากสิว หลุมสิว ก็สามารถทานคู่นี้ได้ค่ะ

👇 👇

 

เพราะด้วยสารสกัดที่เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งคู่ ไม่หวงความกระจ่างใสให้ทุกคนได้แบบเต็มๆ เลยค่ะ

ทั้งColla-More ที่เสริมในเรื่อง

 

✅ #เน้นฟื้นบำรุงให้ผิวเปล่งประกาย มีออร่า

👉มี Collagen tripeptide& Collagen type II ดูดซึมไว ออร่าเร็ว

👉มี Xylo-oligosaccharides #เสริมภูมิคุ้มกัน

✅ ช่วยdetox ระบบขับถ่ายดีขึ้น

.

และAzitra ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติมากถึง 8 ชนิด ที่เข้ามาช่วยเรื่องผิว เส้นผิว และบำรุงเล็บ เรียกได้ว่าครอบคลุมมากๆค่ะ

 

✅ ผิวกระจ่างใส #เสริมภูมิคุ้มกันผิว

✅ #ลดรอยสิว และจุดด่างดำ

✅ ดูแลผม สายตา และเล็บให้แข็งแรงขึ้น

✅ คอลลาเจนเปปไทด์ที่ช่วยชะลอการเสื่อของเซลล์ผิว ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี

✅ ยกกระชับ ริ้วรอยจางลง #หลุมสิวตื้นขึ้น

.

📌 ทานColla-More ก่อนอาหารเช้า หรือก่อนนอนครั้งละ 1 ซอง ฉีกแล้วใส่น้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้อง 250ml.

จากนั้นทานAzitra ครั้งละ 1 แคปซูลหลังอาหารเช้า-เย็น

 

5. ใช้สกินแคร์ควบคู่ ดูแลผิว เพิ่มความชุ่มชื้น สร้างสมดุลผิว สร้างปราการผิวให้แข็งแรง เท่านี้ปัญหาเรื่องผิวหมองคล้ำ เป็นสิวต่างๆ ก็จะไม่มารบกวนคุณอีกต่อไปค่ะ

 

อย่างเช่น กลุ่มสกินแคร์ที่ช่วยทั้งบำรุงและฟื้นฟูผิวของคุณในคราวเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรอยสิว สิวอักเสบ ผิวแห้งขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ ปัญหาเหล่านี้จดีขึ้น เมื่อผิวมีสมดุลที่ดี แข็งแรง

 

 

👉 Welpano First Care White Essence ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดฝ้า-กระจางลง ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

👉 Welpano Whitening Cream-Gel ช่วยให้ผิวกระชับ สมานแผลสิว ลดจุดด่างดำ ลดริ้วรอยได้ดี

 

 

👉 Welpano Loofha Smooth Serum ช่วยปลอบประโลมผิวจากอาการระคายยเคือง ลดผดจากผิวแห้ง ผิวกระชับ หลุมสิวตื้น

 

 

👉 Welpano Expert Scar Care Gel Plus ช่วยลดเลือนรอยสิว สมานแผลสิว และแผลอื่นๆ พร้อมลดการระคายเคืองจากการแพ้ต่างๆได้

 

 

👉 Welpano Acne gel ใช้กับสิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวหัวหนอง และสิวที่จับแล้วเจ็บ จะช่วยลดการอักเสบ สิวยุบไว ไม่ทิ้งรอย

 

 

สกินแคร์เวลพาโน่พร้อมดูแลทุกปัญหาผิวเพียงคุณเปิดใจ ทักเข้ามาปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีนะคะ เราเป็นสกินแคร์เวชสำอางที่อ่อนโยน และปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ซึ่งเน้นสารสกัดหลักจากธรรมชาติ เพื่อสร้างผิวแข็งแรง ช่วยปลอบประโลมปัญหาผิว และกระจ่างใสได้อย่างยั่งยืนนะคะ

 

✅ ปลอดภัยกับทุกท่าน คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรก็สามารถใช้ได้

((แม้แต่เจลแต้มสิวก็สามารถใช้ได้ในขณะตั้งครรภ์ค่ะ เพราะเน้นสารสกัดจากธรรมชาติ เปลือกมังคุด))

✅ ไม่มีแอลกอฮอล์

✅ ไม่มีน้ำหอม

✅ ไม่มีสีสังเคราะห์

✅ ไม่มีสารกันเสียพาราเบน

 

 

👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻👇🏻

ทักแชทปรึกษาปัญหาผิว/สั่งซื้อที่ :

✅ คลิกที่ http://line.me/ti/p/@php3156s

 

หรือ Line ID : @welpano

 

✅ inboxแชทสอบถามที่ http://m.me/welpano

 

Like