เคยไหม? ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ทั้งวัน ทั้งกับงาน ครอบครัว และเพื่อน พอกลับถึงบ้านก็รีบนอนทันที
แต่พอตื่น ร่างกายกลับรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่กระตือรือร้น สมองคิดช้าลง สมาธิก็ลดน้อยลงด้วย ทั้งๆ ที่มั่นใจว่าชั่วโมงนอนมากพอแล้ว ส่งผลให้การเริ่มต้นวันใหม่ไม่สดใสเหมือนเดิม ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่เต็มที่ บางคนหยุดพักสักนิดเพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์ ก็จะรู้สึกดีขึ้นแล้ว ในขณะที่บางคนก็อาจจะกลับไปอยู่ในอาการเหนื่อยล้าเช่นเดิม
หากอาการเหนื่อยล้ายังคงเกิดติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ และทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณมีปัญหา ไม่ควรมองข้าม จำเป็นต้องจัดการกับอาการเหล่านั้น เพราะอาการที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยนี้ สามารถนำไปสู่อาการเรื้อรังอื่นๆ ได้ เช่น CFS (Chronic Fatigue Syndrome) หรือกลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง
“เหนื่อยล้า” เป็นอาการที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการนอนพักเพียงอย่างเดียว ซึ่งอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการพักผ่อนเลยก็คือการที่ร่างกายขาดวิตามินบี
ทำความรู้จัก "วิตามินบี"
“วิตามินบี” เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสะสมไว้ได้ ถ้าหากมีจำนวนมากเกินไปก็จะถูกขับออกมา จึงจำเป็นต้องได้รับในทุกๆ วัน ซึ่งวิตามินบีนั้นเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ
จากการสำรวจสุขภาพและโภชนาการแห่งชาติ ของประเทศญี่ปุ่น มีรายงานว่าคนทั่วไปมีแนวโน้มที่จะขาดแคลนกลุ่มวิตามินบี ไม่ว่าอายุ หรือเพศใดก็ตาม โดยที่วิตามินบีมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ความเหนื่อยล้า” และเป็นสารอาหารที่สำคัญในการช่วยเปลี่ยนสารอาหารหลักสามกลุ่ม(คาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน) ให้กลายเป็นพลังงานของร่างกาย
โดยทั่วไป หากขาดวิตามินบี จะเริ่มต้นด้วยอาการชาปลายมือ ปลายเท้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องผูก เป็นตะคริวบ่อยขึ้น หากมีอาการรุนแรงจะทำให้แขนไม่มีแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หอบเหนื่อย หัวใจโต หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด
ประโยชน์ดีๆ จากวิตามินบี
วิตามินบีสามารถพบได้ทั่วไปในอาหารหลายชนิด เช่น ผัก ถั่วเหลือง โฮลวีต ข้าวโอ๊ต รำข้าว ถั่วลิสง เปลือกข้าว บริเวอร์ยีสต์ เมล็ดข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ไข่แดง นม เนื้อออร์แกนิก เนื้อหมูไม่ติดมัน ปลา และอาหารที่มีวิตามินบีสูงได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ธัญพืช อาทิ ถั่วแดง ถั่วลิสงดิบ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง เป็นต้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
1. รักษาอาการเหน็บชา
2. เสริมสร้างการเจริญเติบโต
3. ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้เป็นอย่างดี
4. ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ
5. ช่วยบำรุงสมอง เป็นต้น
วิตามินบี ตัวช่วยสำคัญของร่างกาย
โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อขับเคลื่อนให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ จะเป็นส่วนที่ใช้พลังงานเยอะที่สุด เพราะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพลังงานที่ว่าจะได้จากการย่อยสลายสารอาหารจนเกิดเป็นพลังงานในหน่วยย่อยที่เรียกว่า ATP (Adenosine Triphosphate) ขบวนการดังกล่าวจะต้องใช้วิตามินบี 1 เป็นตัวช่วย
วิตามินบี 1 หรือ ไทอามีน (Thiamine) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ละลายในน้ำ มีหน้าที่สำคัญ ในการเผาผลาญพลังงาน ช่วยเปลี่ยนสารอาหารที่รับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแป้ง น้ำตาล ไขมัน โปรตีนให้เป็นพลังงาน ATP ที่เราสามารถนำไปใช้กับร่างกายได้ ดังนั้นหากเราขาดวิตามินบี 1 จะส่งผลกระทบกับกระบวนการสร้างพลังงาน ทำให้ร่างกายขาดพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อจะทำหน้าที่บกพร่องในการหดตัวและคลายตัว จนเกิดเป็นอาการตึง ปวดเมื่อยได้ ถ้าอยู่ในสภาวะเครียดด้วยแล้ว สมองและระบบประสาทยิ่งมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้น ความต้องการวิตามินบี 1 ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปด้วย
วิตามินบีกับการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายมากเกินไปทำให้เกิดความเมื่อยล้า มนุษย์เคลื่อนไหวร่างกายได้โดยการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต·โปรตีน·ไขมัน ที่กินเข้าไปให้เป็นพลังงาน ซึ่งมีการใช้วิตามินบีเป็นตัวช่วย เมื่อมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ความต้องการวิตามินบีก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ถ้าวิตามินไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายรู้สึกเมื่อยล้า วิตามินบี 1 มีส่วนสำคัญในการผลิต ATP ดังนั้นหลังจากการออกกำลังกาย ควรบริโภควิตามินบี 1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า
ใครบ้างที่ควรเสริมวิตามินบี 1 ให้ร่างกาย
สำหรับคนทั่วไป วิตามินบี 1 ที่มีอยู่ในอาหารก็อาจจะเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในหนึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง ที่อาจต้องการวิตามินในจำนวนที่มากกว่าปกติ เนื่องจากวิตามินบี 1 มีหน้าที่หลักในการสร้างพลังงานให้กับร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ และระบบประสาท ดังนั้นคนที่เสริมวิตามินบี 1 ก็คือกลุ่มคนที่มีการใช้งานกล้ามเนื้อและระบบประสาทมากเป็นพิเศษนั่นเอง จำแนกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
1. ผู้ที่มีพฤติกรรมอยู่ในท่าเดิมๆ ซ้ำๆ นานๆ ต้องทำงานที่มีการนั่ง ยืน เดิน หรือค้างอยู่ในท่าเดิมนานๆ จะมีการใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนัก มีอาการปวดเมื่อยร้าวตามหลัง ไหล่ ได้ เช่น พนักงานออฟฟิศ
คนที่ยกของหนักเป็นประจำหรือนั่งขับรถเป็นเวลานาน
2. ผู้ที่ใช้สมองอย่างหนักและมีความเครียดสะสม เช่น คนวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษาช่วงใกล้สอบ
3. ผู้ที่มาอาการอ่อนเพลีย นอนน้อย ทำงานหนัก นอนดึก
4. ผู้ที่มีอาการชา ตามปลายมือปลายเท้า เช่นคนที่ใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดเยอะ คนสูงอายุ คนเป็นโรคเบาหวาน
5. ผู้ที่มีพฤติกรรมที่ใช้สายตาเยอะ เช่น นั่งจ้องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน
6. ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น นักกีฬา เนื่องจากมีการใช้พลังงานกล้ามเนื้อเยอะ
7. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงดังกล่าวนี้เป็นสภาวะที่ร่างกายของแม่ต้องการใช้พลังงานสูงมาก จึงมีความต้องการมากขึ้นด้วย ดังนั้นหากรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 เท่าเดิมก็จะมีโอกาสเกิดภาวะการขาดวิตามินได้ (ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยา)
8. ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีโอกาสขาดวิตามินบี 1 เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลยับยั้งการดูดซึมของวิตามินบี 1 ที่บริเวณลำไส้เล็ก นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำมักรับประทานอาหารโดยภาพรวมลดลง ทำให้ได้รับวิตามินบี 1 จากอาหารน้อยลงตามไปด้วย
9. ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารต้านไทอามีน (anti-thiamine factors) เป็นสารที่สามารถทำลายวิตามินบี 1 โดยตรง ได้แก่ ปลาดิบ หอยดิบ หมาก และอาหารที่ผ่านการหมักแล้วมีการเจือปนของ mycotoxin ต่างๆ (mycotoxin คือสารพิษจากเชื้อรา)
10. ผู้ที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เช่น ไม่รับประทานผัก หรือทานแต่มังสวิรัติหรือเจ ก็จะพลาดโอกาสได้รับวิตามินบี1 ที่พบเฉพาะในเนื้อสัตว์เท่านั้น
การที่คนเราจะมี “สุขภาพดี” ได้นั้น จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และเพียงพอต่อการสร้างพลังงานให้กับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถทำกิจวัตรประจำวัน ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว เพื่อน และเรื่องส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ และห่างไกลจากอาการเมื่อยล้า ทางที่ดีอาจควรหาตัวช่วยเสริมอย่างวิตามินรวมธรรมชาติ IWIS INNERTIVE PLUS ทางเลือกของคนยุคใหม่ที่อยากใส่ใจสุขภาพของตัวเอง ไม่ต้องทานหลายเม็ดให้ยุ่งยาก เพราะคัดสรรสารสกัดดีๆ รวมไว้มากถึง 10 ชนิด มาเพื่อบำรุงสมอง ระบบประสาทและสายตา ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ยังรู้สึกสดชื่นแม้พักผ่อนน้อย หรือเหนื่อยล้า อ่อนเพลียจากการทำงานหนัก เรียนหนัก พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ป่วยบ่อยๆ เสริมผิวพรรณให้กระจ่างใสเปล่งปลั่ง รอยดำ&รอยแดงจากสิวจางลง กระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายให้มีประสิทธิภาพ และยังกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ยิ่งดีขึ้น