วิธีเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไร? ให้เหมาะสมกับผิวหน้า
02 Sep, 2023 / By
aomsin
“มอยส์เจอร์ไรเซอร์" เป็นไอเทมสกินแคร์ที่สำคัญ ควรมีติดบ้าน เพื่อฟื้นฟูบำรุงผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ และยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ อย่างเรื่องสิว จุดด่างดำ ริ้วรอย เป็นต้น เพราะฉะนั้นการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะเลือก “มอยส์เจอร์ไรเซอร์” อย่างไร ให้เหมาะสมกับสภาพผิว วันนี้เวลพาโน่จะพามาไขคำตอบกันค่ะ
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น ครีม เจล โลชั่น ขี้ผึ้ง เป็นต้น การทำงาน คือ การเคลือบผิวเอาไว้เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว เพราะเมื่อมีการสูญเสียน้ำของผิวที่น้อยลง ผิวก็จะมีความชุ่มชื้นมากขึ้นทำให้ผิวดูแข็งแรง เต่งตึง ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ดูสุขภาพดี ซึ่งมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีจึงควรมีคุณสมบัติ ดูดซึมได้ดี ออกฤทธิ์เร็ว และอยู่บนผิวหนังได้นานโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ
ประเภทของมอยส์เจอร์ไรเซอร์
การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เป็นการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นนี้ สามารถให้ความชุ่มชื้นได้นาน 2-6 ชม. ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเพิ่มความชุ่มชื้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
▶️ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Occlusives มอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดนี้จะช่วยเคลือบผิว โดยการสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบที่ชั้นบนสุดของผิวและกันน้ำได้ ชะลอการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง โดยกลุ่มที่มีคุณสมบัตินี้ ได้แก่ ไขคาร์นอบา เป็นไขที่ได้จากใบของปาล์มคาร์นอบา น้ำมันมะกอก Petrolatum ซิลิโคน ลาโนลิน และกลุ่ม Intercellular lipid bilayers (เลียนแบบโครงสร้างระหว่างเซลล์ผิวหนัง) เช่น ซาราไมค์ กรดไขมัน
▶️ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Emoillients ทำให้ผิวนุ่ม เป็นสารไขมันที่ดูดซึมได้ ช่วยให้ผิวนุ่มและประสานผิวตกสะเก็ด หรือเซลล์ผิวที่ตาย ลดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง โดยกลุ่มสารนี้ประกอบด้วย เชียบัตเตอร์ สควาเรน คอลลาเจน ไอโซโพรพิล และปามิเตท
▶️ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Humectants ช่วยผิวฉ่ำน้ำ เป็นสารที่ดูดซับน้ำจากชั้นลึกของหนังกำพร้าให้ขึ้นถึงชั้นบน ให้ความชุ่มชื้นที่พบได้ในผิวหนังชั้นนอกสุดหรือที่เรียกว่าชั้นผิวหนังกำพร้าให้ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากเชื้อโรค การขาดน้ำ หรือสารเคมี โดยกลุ่มสารที่มีคุณสมบัตินี้ เช่น กลีเซอรีน กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดไฮยาลูรอนิก ซอร์บิทอล และยูเรีย
เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับผิว
การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ จะช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวหน้าจะนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ไม่ว่าผิวแห้งหรือผิวมัน จำเป็นต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั้งสิ้น นอกจากจะมอบความชุ่มชื้นให้ผิวแล้วยังช่วยชะลอริ้วรอยได้อีกด้วย
▶️ ผิวหน้ามันเป็นสิวง่าย อาจเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความมันน้อย เนื้อบางเบา หรือเนื้อครีมประเภทที่แห้งเร็ว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย แนะนำให้ใช้จะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ที่อาจอยู่ในรูปแบบโลชั่นเหลว
▶️ ผิวหน้าแห้ง ควรเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมที่อาจจะมีความเข้มข้นมากกว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์ของผิวประเภทอื่นเล็กน้อยในการคงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ช่วยในการกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำมัน (Oil-based moisturizer) ที่ประกอบไปด้วยน้ำมันสำหรับบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้น้ำมันเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นจากผิวระเหยออกไป
▶️ ผิวหน้าปกติธรรมดา สามารถเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทั้งฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ในรูปแบบโลชั่น เพื่อที่จะได้รู้สึกแห้งเร็ว เบาสบายผิว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะจนเกินไป หรือหากต้องการความชุ่มชื้นมากๆ ก็สามารถใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นฐานน้ำมันได้ (Oil-based moisturizer) แต่เวลาที่ใช้อาจปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ
▶️ ผิวหน้าผสม เลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันในอัตราส่วนเท่ากัน ทำให้ผิวรับส่วนผสมทั้งสองอย่างอย่างเท่ากัน จึงช่วยให้ผิวคงสมดุลของน้ำไว้ในผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป
💦 มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หลายๆคนมองว่าไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับคนผิวมัน เพราะรู้สึกว่า การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ จะทำให้รู้สึกเหนอะหนะ หนักหน้า ไม่สบายผิว หรือทำให้หน้ายิ่งมันขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้ว หากผิวหน้าของเรา มีสมดุลผิวที่ไม่ดี ผิวก็จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยเติมน้ำให้ผิว เมื่อผิวเราชุ่มชื้น ก็ไม่จำเป็นต้องผลิตน้ำมันออกมาจำนวนมาก
สำหรับ Welpano Loofha Smooth Serum #เวลพาโน่ลูฟฟาสมูทเซรั่ม เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คนผิวแพ้ง่ายส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะมีคุณสมบัติทั้ง Occlusives และ Humectants และเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่ให้ความชุ่มชื้น เนื้อสัมผัสเป็นเนื้อเซรั่ม บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะ หรือไม่อุดตันผิว จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยค่ะ
Welpano Loofha Smooth Serum สามารถมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้มากกว่าปกติถึง 10 เท่า!! สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย เซรั่มจะซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วล้ำลึก ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะผิว หรือทิ้งความเหนอะเคลือบไว้บนผิวหน้า ใช้แล้วเบาสบายผิวแน่นอนค่ะ
พร้อมทั้งช่วยบำรุงผิวให้ฉ่ำน้ำ เนียนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพร้อมช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ พร้อมช่วยในเรื่องยกกระชับผิว ชะลอความหย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย เผยผิวดูอ่อนกว่าวัย ลดการอักเสบระคายเคืองผิว ช่วยกระชับรูขุมขน เปลี่ยนผิวโทรมให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวา ทาก่อนแต่งหน้า จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ผิวดูเนียนใส สุขภาพดี
💧ลูฟฟาสมูทเซรั่มให้ความชุ่มชื้นในกลุ่ม Humectant อุดมไปด้วย Sodium Hyaluronate ช่วยดูดน้ำจากอากาศมาไว้ที่ผิว ทำให้ล็อคความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้ยาวนาน "ปรับสมดุลผิวและลดการสูญเสียของน้ำแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้อย่างล้ำลึก"
💧ลูฟฟาสมูทเซรั่มยังให้ความชุ่มชื้นในกลุ่ม Occlusive อุดมด้วย Squalane ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ป้องกันน้ำระเหยออก จากผิวได้อย่างดี เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีต่อทุกสภาพผิว เพราะช่วยล็อคความชุ่มชื้น ช่วยชะลอไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย
💜 เซรั่มเนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายไม่อุดตันผิว
💜 บำรุงผิวให้ฉ่ำน้ำ เนียนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
💜 ช่วยยกกระชับผิว ชะลอความหย่อนคล้อย
💜 ช่วยในเรื่องริ้วรอย ผิวอ่อนกว่าวัย
💜 ลดการอักเสบระคายเคืองผิว ช่วยกระชับรูขุมขน
💜 เปลี่ยนผิวโทรมให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวา
💜 เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือคุณแม่ตั้งครรภ์
👑 การันตีด้วยการชนะเลิศ รางวัล PRAEW ICONIC BEAUTY ในฐานะ ICONIC ANTI-WRINKLE & LIFTING SERUM FOR SENSITIVE SKIN
📌 ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังทำความสะอาดผิว เนื่องจากเป็นช่วงที่สารจะซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี ควรทาให้ทั่วผิวหนังที่ต้องการเคลือบ โดยใช้นิ้วมือคลึงเบาๆ ให้เนื้อครีมกระจายออกทั่วผิวหนัง อย่างไรก็ตามหากมีปัญหาเกี่ยวกับโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อคำแนะนำอื่นๆ เพิ่มเติมในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและเหมาะสมมากที่สุด