หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > ค่า SPF และ PA ในครีมกันแดดคืออะไร? ต้องเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสม
ค่า SPF และ PA ในครีมกันแดดคืออะไร? ต้องเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสม
ค่า SPF และ PA ในครีมกันแดดคืออะไร? ต้องเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสม
23 Sep, 2023 / By aomsin
Images/Blog/lelcbd9N-Blog (2).png

เคยสงสัยกันไหมว่า ค่า SPF และค่า PA ในครีมกันแดดที่เราใช้กันอยู่นั้นคืออะไร? สามารถป้องกันแสงแดดได้จริงหรือไม่? และควรเลือกใช้แบบไหน? คงเป็นคำถามที่ใครหลายๆคนยังตั้งข้อสงสัย หรือยังไม่เข้าใจ ต้องการอยากรู้คำตอบเพื่อที่จะได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด วันนี้เวลพาโน่มีความรู้เกี่ยวกับการอ่านค่า SPF และค่า PA (+) มาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกันค่ะ

แสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวเรามากที่สุด เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิว ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหยาบกร้าน ผิวแก่กว่าวัย การทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิว ควรเลือกครีมกันแดดใช้ตามความเหมาะสมจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

รังสี UV มีด้วยกัน 3 แบบ แต่ละแบบจะทำร้ายผิวเราอย่างไรบ้าง?

▶️ รังสี UVA เป็นรังสีที่รุนแรงมาก สามารถทะลุผ่านกระจกได้ และซึมผ่านผิวหนังชั้นหนังแท้ได้มากกว่ารังสี UVB รังสีจะไปกดภูมิต้านทานในผิวหนัง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง แถมยังส่งผลทำให้ผิวมีปัญหาริ้วรอย เหี่ยวย่น จุดด่างดำ หากเราไม่ทาครีมกันแดด นอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำแล้ว ยังทำให้ผิวดูแก่กว่าวัยด้วยค่ะ

▶️ รังสี UVB เป็นรังสีที่สามารถเข้าถึงชั้นหนังกำพร้าและทำลายผิวได้ทันที เป็นสาเหตุที่เวลาผิวเราโดนแสงแดดแล้วจะเกิดอาการแสบคัน ผิวหนังแห้ง ผิวไหม้แดด แต่ก็ยังมีความรุนแรงน้อยกว่ารังสี UVA และไม่สามารถทะลุผ่านกระจกได้

▶️ รังสี UVC อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้จักรังสีตัวนี้เท่าไหร่ เพราะมีช่วงความถี่ต่ำ ไม่สามารถผ่านเข้ามายังชั้นบรรยากาศของโลกได้ จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกันเท่าไหร่ค่ะ

ค่า SPF ในครีมกันแดดคืออะไร สำคัญต่อผิวอย่างไร?
SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor คือค่าประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสี UVB ว่าสามารถปกป้องผิวของเราได้นานเท่าไหร่ โดยจะสามารถคำนวณได้ดังนี้

☀️ ปกติแล้วผิวของเราจะสามารถทนต่อแสงแดดได้โดยไม่ทาครีมกันแดด เฉลี่ย 15 นาที หากเกินไปกว่านี้ผิวหนังจะมีอาการแดงหรือไหม้ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยความแรงของแสงแดดด้วย หากเราทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หมายถึงผิวเราจะสามารถทนแดดได้เป็นเวลา 15*30 = 450 นาที หรือประมาณ 7 ชั่วโมง

ปัจจุบันค่า SPF มากสุดจะอยู่ที่ 50 ยิ่งค่า SPF มาก ระยะเวลาของผิวก็จะสามารถทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น แต่ยิ่งประสิทธิภาพสูง นั่นหมายถึงว่า ครีมกันแดดอาจมีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์สำคัญที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย ในปัจจุบันครีมกันแดดในท้องตลาดมีหลากหลาย บางท่านเลือกที่จะใช้ SPF ต่ำและทาทุก 2 ชั่วโมงเพื่อการปกป้อ
ผิวที่ยาวนาน โดยไม่ให้ระคายเคืองต่อผิว แนะนำควรเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับผิว ตามความเหมาะสมจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เพื่อให้อ่อนโยนต่อผิว และได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

ค่า SPF และเปอร์เซ็นต์ความสามารถในการป้องกันรังสี UVB
SPF 8 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 87.5%
SPF 15 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 93.3%
SPF 20 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 95%
SPF 30 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 96.7%
SPF 40 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 97.5%
SPF 50 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 98%
SPF 50+ จะดูดซับรังสี UVB ได้ > 98%

ค่า PA คืออะไร สำคัญต่อผิวอย่างไร?
PA (Protection grade of UVA) คือ ค่าระดับความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่เรียกว่า Persistent Pigment Darkening หรือ PPD และรายงานผลออกมาเป็นค่า PA ระบุค่าความสามารถเป็นจำนวนเครื่องหมายบวก (+) โดยจะมี 4 ระดับ ซึ่งแต่ละค่ามีความหมายดังนี้

PA+ ป้องกันแสง UVA ได้น้อย สามารถปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 2-4 เท่า

PA++ ป้องกันรังสี UVA ได้ปานกลาง สามารถปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 4-8 เท่า

PA+++ ป้องกันรังสี UVA ได้มีประสิทธิภาพสูง สามารถปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 8-16 เท่า

PA++++ ป้องกันรังสี UVA ได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด สามารถปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ มากกว่า 16 เท่า

☀️ ปกติแล้วในแสงแดดจะมีรังสี UVA มากถึง 95% ซึ่งเป็นรังสีที่สามารถทะลุผ่านกระจกได้ หรือแม้แต่เราอยู่ภายในอาคาร ไม่ได้อยู่กลางแจ้ง รังสี UVA ก็ยังสามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกได้ด้วย เพราะฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิว

🔥 ที่สำคัญที่สุดควรเลือกใช้ครีมกันแดด ที่สามารถปกป้องผิวได้ทั้งจาก UVA และ UVB เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลผิว ปกป้องผิวอย่างดีที่สุดนั่นเองค่ะ ซึ่งครีมกันแดดในปัจจุบัน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทดังนี้ 

▶️ แบบ Chemical Sunscreen ทำงานโดยการดูดซับรังสียูวีเอาไว้ เช่น PABA (para-aminobenzoic acid), Cinnamates Benzophenones, Ecamsules เป็นต้น ข้อดีของสารกันแดดประเภทนี้ คือมีความคงทนต่อแสงแดดระดับดี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และบางเบา แต่เนื่องด้วยเป็นแบบเคมีจึงอาจไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

▶️ แบบ Physical Sunscreen ทำงานโดยการสะท้อนแสงยูวีออกไป เช่น Zinc oxide (ZnO) หรือ Titanium dioxide (TiO2) เป็นหลัก ซึ่งมีข้อดีคือมีความคงทนต่อแสงแดด มีความปลอดภัยสูง แต่ครีมกันแดดประเภทนี้จะค่อนข้างเนื้อหนา และมีสีขาววอก

▶️ แบบ Hybrid Sunscreen เป็นการผสมระหว่างแบบ Chemical และแบบ Physical โดยเป็นการรวมเอาจุดเด่นของแต่ละประเภทเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้มีความคงตัวสูง ผิวสัมผัสดี ไม่เหนอะหนะ ไม่ขาววอก

🔺ครีมกันแดดแต่ละประเภท สามารถปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้ดีเหมือนกัน แต่จะมีวิธีการปกป้องผิวที่ต่างกัน สำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย แนะนำควรเลือกใช้ ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen ที่จะปกป้องผิว เปรียบเสมือนเกราะป้องกันรังสี UV โดยการสะท้อนรังสี UV จึงเป็นสารกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากสารกลุ่มนี้จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง จึงมีโอกาสเกิดการแพ้ได้น้อยมากค่ะ

แนะนำผลิตภัณฑ์กันแดดจาก Welpano เป็นครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen 100% เพื่อผิวที่บอบบางแพ้ง่าย หรือผิวที่มีปัญหาสิวต่างๆ #ครีมกันแดดเวลพาโน่ สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ยาวนานถึง 12 ชม. ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB/แสงสีฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพได้ตลอดทั้งวัน เป็นครีมกันแดดที่ #สามารถทาในตอนเช้าเพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องทาซ้ำระหว่างวัน และยังเป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบของผิว ช่วยรักษาและสมานแผลสิวให้หายดี ไม่อุดตันผิว พร้อมยังช่วยบำรุง ลดเลือนรอยสิวไปด้วยในตัว ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว โดยจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 สูตร

🧡 Welpano Sunscreen Extra Light Cream UV Protection SPF50 PA+++ #ครีมกันแดดฝาขาวเวลพาโน่ จะเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวหน้าแห้ง - ผิวผสม เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันผิว ไม่เป็นคราบ จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด รังสี uva/uvb  อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ จะช่วยควบคุมความมันระหว่างวัน ปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ช่วยให้ความชุ่มชื้น ผิวบอบบางแพ้ง่าย-เป็นสิว สามารถใช้ได้

🧡 Welpano Sun UV Protection Oil Control Watery Serum SPF50+ PA++++ #ครีมกันแดดฝาทองเวลพาโน่ จะเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวหน้าค่อยไปทางมัน - ผิวมัน เนื้อเซรั่ม บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันผิว ไม่วอก กันน้ำ ไม่เป็นคราบ จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด uva/uvb  อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ จะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อ P.acnes ที่จะก่อให้เกิดสิว จะช่วยควบคุมความมันระหว่างวัน ปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน

✴️ ผลิตภัณฑ์ของเวลพาโน่อ่อนโยน ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ✴️

Like