เวลพาโน่เชื่อว่าหลายๆท่านคงมีปัญหาเกี่ยวกับ“กรดไหลย้อน”อยู่ไม่ใช่น้อย บางท่านเป็นๆหายๆ บางท่านชะล่าใจไม่รีบรักษา จนกลายเป็นเรื้อรังไปแล้ว ซึ่งเป็นภาวะที่กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร อาการที่พบบ่อย ได้แก่ แสบร้อนกลางอก แน่นท้อง ท้องอืด จุดเสียด เรอเปรี้ยว แม้ว่ากรดไหลย้อนจะเป็นภาวะที่พบบ่อยและสามารถจัดการได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการใช้ยา แต่หากไม่รักษาหรือไม่ดูแลอย่างถูกต้อง ภาวะนี้สามารถนำไปสู่ความเสี่ยงที่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อันตรายที่เกี่ยวข้องกับกรดไหลย้อน

1. การอักเสบและแผลในหลอดอาหาร

กรดที่ไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารสามารถทำให้เยื่อบุหลอดอาหารเกิดการอักเสบ (esophagitis) และเกิดแผลในหลอดอาหาร (esophageal ulcers) การอักเสบและแผลที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานสามารถนำไปสู่การเกิดรอยแผลเป็น (strictures) ทำให้หลอดอาหารแคบลง ส่งผลให้การกลืนอาหารเป็นไปได้ยากขึ้น

2.มะเร็งหลอดอาหาร

กรดไหลย้อนที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมสามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งหลอดอาหารได้ ซึ่งเป็นมะเร็งที่มีความรุนแรง การตรวจพบในระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่เนื่องจากมะเร็งหลอดอาหารมักไม่มีอาการในระยะแรก การตรวจพบในระยะท้ายทำให้การรักษายากและโอกาสรอดชีวิตลดลง

3.ปัญหาระบบทางเดินหายใจ

กรดที่ไหลย้อนขึ้นมาสามารถไหลเข้าไปในระบบทางเดินหายใจได้ ทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ (bronchitis) หืดหอบ (asthma) และปอดอักเสบ (pneumonia) ในบางกรณีกรดที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการขาดอากาศหายใจและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของอันตรายที่เกิดจากกรดไหลย้อน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตดังนี้ค่ะ

· หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน เช่น อาหารมัน อาหารเผ็ด  คาเฟอีน 

· รับประทานอาหารในปริมาณน้อยและบ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง

· นอนยกศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันกรดไหลย้อนกลับขึ้นมา

· ลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

· หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์

การรักษาด้วยยาอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดอาการกรดไหลย้อนและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ ยาที่ใช้ในการรักษากรดไหลย้อนประกอบด้วยยาลดกรด (antacids) ยายับยั้งการหลั่งกรด (H2 blockers) และยาต้านโปรตอนปั๊ม (proton pump inhibitors)

แต่รู้หรือไม่! การใช้ยาพร่ำเพรื่อในระระยาว เสี่ยงมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุน เนื่องจากทำให้การดูดซึมสารอาหาร เหล็ก วิตามินบี12 ลดลง ทานต่อเนื่อง สะสมในร่างกาย ส่งผลเสียหายหลายระบบ ทั้งตับทั้งไต 

จะดีกว่าไหม? ถ้าเรามีทางเลือกใหม่ ที่ช่วยดูแลตั้งแต่ระบบทางเดินอาหารครบสูตร ปรับสมดุลลำไส้ เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร และการเผาผลาญได้ดี แก้ปัญหาโรคกระเพาะ กรดไหลย้อนเรื้อรัง วิตามินที่เน้นสารสกัด“จากธรรมชาติ100%” ปลอยภัย ไม่สะสมในในร่างกาย ด้วยเทคโนโลยีทางเภสัชกรรมที่มีงานวิจัยรองรับ

เพราะกว่า 70% เซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกาย อยู่ที่ระบบทางเดินอาหาร ระวัง! หากไม่รีบดูแลปล่อยไว้เกิดเป็นเรื้อรัง สายเกินแก้ สัญญาณเตือนของ”ระบบการดูดซึมสารอาหารโดยเฉพาะกรดอะมิโน“ที่จำเป็นต่อร่างกายผิดปกติ! ทำให้ระบบเผาผลาญพัง

👉🏻หิวบ่อย กินจุกจิกทั้งวัน เท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม 

👉🏻น้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ และลงยาก

นอกจากนั้นอาการปวดท้องอยู่บ่อยๆ จุกเสียด ท้องอืด แสบกลางอก ยังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งกระเพาะ กรดไหลย้อน ลำไส้อักเสบ เป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้!

ระบบทางเดินอาหารที่แข็งแรงจะช่วยลดอาการอักเสบและโรคร้ายต่างๆได้

✅ ดูดซึมกรดอะมิโนอาทิเช่น Arginine ได้มากขึ้น 66.7%

✅ ดูดซึมวิตามิน อาทิเช่น Folate ได้มากขึ้น 50.4%

✅ ดูดซึม Glucosamine ได้ดีขึ้น 41.9%

✅ เพิ่มอัตราการสร้าง ATP ได้ 18%

ใหม่‼️วิตามินMulti Gastraจากสารสกัดธรรมชาติที่มีงานวิจัยรองรับ 

👉🏻ทานได้ทั้งท่านที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีมาก บำรุงตับ(ไม่มีสารพิษตกค้าง) 

👉🏻สารสกัดป้องกันสมองเสื่อม กลางคืนนอนหลับง่ายขึ้น กลางวันสบายท้อง(เบาตัว) เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร เพิ่มจุลินทรีย์ที่ดี(ลำไส้สมดุล) 

👉🏻ท้องไม่อืด ไม่ปวดเกร็ง พุงไม่ป่อง การเผาผลาญดีขึ้น ช่วยบำรุงหูรูดกระเพาะปัสสาวะด้วย 

👉🏻ท่านที่มีปัญหา กรดไหลย้อน ท้องอืด อาหารไม่ย่อย โรคกระเพาะ ลำไส้แปรปรวน ลำไส้อักเสบ ทานแล้วจะยิ่งดีขึ้น

👉🏻มีแคลเซียมช่วยบำรุงข้อต่อ กระดูกและฟัน ครบค่ะ

ทานครั้งละ2แคปซูล วันละ1ครั้งก่อนอาหารมื้อใดก็ได้(ถ้าหากลืมทานก่อนอาหาร ก็สามารถทานหลังอาหารได้เช่นกันนะคะ)แต่ถ้าทานก่อนอาหารก็จะช่วยดูดซึมสารอาหารได้ดีค่ะ

ทานก่อนอาหารกี่นาทีก็ได้ค่ะ ไม่ได้จำกัดเลยค่ะ ทานMulti Gastraปุ๊บ แล้วทานอาหารต่อ ก็ยังได้เลยค่ะ หรือจะทานเป็นก่อนอาหาร 15 ถึง 30นาทีก็ได้นะคะ 

อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆท่านคงทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่า กรดไหลย้อนเป็นอาการที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่รักษาอย่างเหมาะสม เราควรตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอันตรายจากกรดไหลย้อนในระยะยาว การตรวจสุขภาพเป็นระยะและการรับคำปรึกษาจากแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ