เดี๋ยวนี้เครื่องดื่มอย่าง “ชานมไข่มุก” ฮิตติดกระแสมาก ๆ เลยค่ะ เดินไปทางไหนก็เห็นผู้คนเดินถือแก้วกันเป็นแถว ด้วยรสชาติโดนใจ หวานมัน หอมกรุ่นชา แถมมีท็อปปิ้งไข่มุกหนึบหนับเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก แต่เดี๋ยวก่อน! ดูเหมือนว่าบางคนไม่ได้ดื่มแค่แก้วเดียวเสียด้วยซิ...แบบนี้จากอร่อยจะกลายเป็นความอันตรายไม่รู้ตัวเอานะคะ ถึงเวลาที่เราจะมาล้วงลึกความจริงของชานมไข่มุกว่าจริง ๆ แล้วมีผลดีหรือผลเสียต่อร่างกายกันแน่...

ชานมไข่มุกกับต้นเหตุโรคร้าย

ก่อนอื่นเราต้องมาดูส่วนประกอบหลักของชานมไข่มุกกันก่อนค่ะ ใน 1 แก้วนั้นมีพลังงานประมาณ 400-500 กิโลแคลอรี่ ประกอบไปด้วย น้ำชา น้ำเชื่อม นม บางร้านก็ใช้ครีมเทียมที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่มีวิตามิน แร่ธาตุและประโยชน์ต่อร่างกายเลยสักนิด มีเพียงความอร่อยเพียงอึดใจเท่านั้นเอง

อีกทั้งเม็ดไข่มุกนั้นก็ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังต้มกับน้ำตาล ยิ่งเพิ่มความหวานและพลังงานเข้าไปอีก จากการวิจัยพบว่าเม็ดไข่มุกนั้นมีพลังงานตั้งแต่ 5-14 กิโลแคลอรี่/เม็ด เลยทีเดียว แก้วเดียวพลังงานก็พุ่งเกินพิกัด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายหลายโรค เช่น ติดคาเฟอีน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเกินจนไปถึงโรคเบาหวานเลยค่ะ เรียกว่าพลังงานเท่ากับเราทานข้าว 1 จานแต่ไม่ได้ประโยชน์หรือสารอาการที่จำเป็นต่อร่างกายเลยค่ะ

น้ำตาลสูงมาก จนทำร้ายผิวได้

ผลการวิจัยจากสถาบันต่าง ๆ กล่าวว่า ความหวานเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่เน้นความหวานมันอยู่แล้ว กินมาก ๆ จะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็ว แก่กว่าวัย ริ้วรอยตามมาเพียบ เพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำลายโครงสร้างอิลาสตินและคอลลาเจนใต้ชั้นผิวจนทำให้ผิวอ่อนแอ สิวขึ้นง่าย หน้ามันง่าย เกิดอาการอักเสบบนผิวหน้า ผิวแห้งขาดน้ำ ไม่เนียนนุ่ม เปล่งปลั่งแบบที่เคยเป็น

ใครจะไปคิดว่าของอร่อยในมือจะเป็นอันตรายมากขนาดนี้  โดยเฉพาะชาไข่มุกนั้นที่มีผลเสียครบเซตเลยค่ะ รู้แบบนี้แล้วก็ควรลด ละ เลิก เพื่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณที่ดูดีขึ้น ลดความหวานลงบ้าง ทานแต่น้อย นาน ๆ ครั้งได้ไม่มีใครว่า แต่ถ้าทานทุกวันวันละหลายแก้วติดต่อกันเป็นเวลานาน จนถึงวันหนึ่งก็กลายเป็นเสพติดชาไข่มุกไม่รู้ตัว ความอร่อยนั้นจะนำอันตรายในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยค่ะ