หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > [รีวิว] แพ้ได้ ผิวก็กลับมาใสได้ ไม่เวิ่นเว้อ!! จากประสบการณ์ดูแลผิวด้วยตัวเอง พลีชีพสุดๆ
[รีวิว] แพ้ได้ ผิวก็กลับมาใสได้ ไม่เวิ่นเว้อ!! จากประสบการณ์ดูแลผิวด้วยตัวเอง พลีชีพสุดๆ
[รีวิว] แพ้ได้ ผิวก็กลับมาใสได้ ไม่เวิ่นเว้อ!! จากประสบการณ์ดูแลผิวด้วยตัวเอง พลีชีพสุดๆ
03 Dec, 2016 / By welpano
Images/Blog/jbXCgbAl-ปกเว็บ.jpg

          สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้เป็นรีวิวที่่ตื่นเต้นมากที่สุด เพราะพี่วิวรู้สึกว่า ตอนที่เห็นผู้ใช้เวลพาโน่ท่านนี้ ส่งรูปรีวิวมาเป็นระยะๆให้พี่วิวดูทางแชทอินบ๊อกในกล่องข้อความเพจ   พี่วิวเองยังรู้สึกว่า ฮู้ยยย.....ผิวดีขึ้นชัดเจนจริงๆนะ นี่ใช่มั้ยที่เค้าเรียกกันว่า ตามหามานาน กับไอเทมเด็ดคู่ใจ  ฟื้นผิวได้จริงซักที((ไม่ใช่แค่เรื่องในฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไป)) 

รวมถึงผู้ใช้ เวลพาโน่ท่านนี้ ก็รู้สึกขอบคุณเวลพาโน่ ที่มีส่วนช่วยให้ผิวดีขึ้น ทำให้สิวหาย ผิวกลับมาใสแบบเดิม ดีใจมาก ^______^ ลูกค้ากล่าว ใครเห็นก็ทักว่าทำอะไรมา วันนี้เลยไม่ลังเลใจที่จะเขียนรีวิวแบ่งปันให้ค่ะ แฮร่ๆๆท่านนี้สวย-เก่ง แล้วยังใจดีแบ่งปันอีกอ่ะ

          เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พี่วิวว่าจังหวะนี้ คงมีหลายท่านตั้งตาคอยดูการแบ่งปันประสบการณ์ดูแลผิวของผู้ใช้welpanoท่านนี้แล้วแหละค่ะ  มาอ่านคำรีวิวจากผู้ใช้เวลพาโน่ท่านนี้กันเลยนะคะ ==++==++==

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

           สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแทนตัวเองว่า เรา ล่ะกันนะคะ ปกติไม่เคยเผยหน้าสิวให้ใครดูเลย ฮือๆๆเขิลจุง T--T ปกติเวลาไปข้างนอกบ้าน จะปิดBB ตลอดค่ะ แต่มาพักหลังสิวโถมเข้ามา จนBB ก็เอาไม่อยู่ค่ะ เพราะสิวปูดๆเต็มเลย ปิดยังไงก็ไม่เนียน เราว่ายื่งปิดสิวก็ยิ่งขึ้นนะ เพราะมันอุดตันหนักมาก 

ครั้งนี้ถือว่าพลีชีพรีวิวเลยก็ว่าได้ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่มีปัญหาผิวคล้ายเรา เข้าใจหัวอกคนเป็นสิวค่ะว่ามันเครียดขนาดไหน  

          ขอท้าวความก่อนน๊าาา เริ่มแรกสิวมาตอนที่เราไปเรียนต่อต่างประเทศ ช่วงเดือนเมษา(ปีที่แล้ว)ค่ะ ก่อนไปหน้าก็ยังดีๆอยู่เลยนะ ปกติจะเป็นสิวแค่   1-2เม็ดขึ้นเวลามีประจำเดือนเท่านั้นค่ะ ส่วนตัวไม่เคยใช้ครีมอันตราย หรือครีมสเตียรอยด์ใดๆนะคะ เพราะจะระวังมาก เรื่องใช้ครีม ก็จะใช้พวกเคาเตอร์แบรนด์มาโดยตลอดและก็ใช้แบรนด์เดิมไม่เคยเปลี่ยนนานมากแล้วค่ะ แต่อยู่ๆสิวอุดตันก็เริ่มขึ้นมาบริเวณขอบหน้าก่อนค่ะ จากนั้นเริ่มลามมาบริเวณแก้ม เริ่มเยอะขึ้นๆ จากนั้นลามมาที่หน้าผาก 

          ตอนนั้นเครียดมาก และอยู่ต่างประเทศด้วย ถ้าจะไปหาหมอผิวหนังที่โน่นก็คิดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะแพงเอาเรื่องอยู่ ตอนนั้นก็พยายามปล่อยวางค่ะ พยายามไม่ไปจับ ไม่บีบแกะ แล้วก็ใช้สกินแคร์เคาเตอร์แบรนด์แบบเดิมต่อไปตามที่เคยใช้ค่ะ แต่สิวก็ไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย เราเลยสันนิษฐานว่า เราน่าจะแพ้น้ำ และแพ้อากาศที่นี่ค่ะ เพราะอากาศหนาว บางทีต้องเปิดฮีตเตอร์ช่วย ผิวเราเลยสับสนมั้งคะ เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน 555++ สิวผดเลยขึ้น บางวันก็คันหน้ายิบๆ โอ๊ยยย นึกแล้วกลุ้มจายจุง 

           จากนั้น เมื่อกลับไทยมาเดือนมีนา(ปีนี้) ก็เริ่มเข้าคลินิกรักษาสิวแห่งหนึ่งค่ะ ก็มีกดสิว ฉีดสิว ทีนี้เหมือนเวลากดสิวน่าจะกดออกไม่หมดค่ะ เลยทำให้สิวอักเสบเริ่มทยอยตามมา(จากเมื่อก่อนมีแค่สิวอุดตัน) รักษาที่่คลินิกอยู่ประมาณ 3เดือนได้ค่ะ แต่รู้สึกหน้ายิ่งบอบช้ำ รอยดำก็เยอะค่ะ เราเลยเลิกไปคลินิก แล้วตอนกดสิวก็เจ็บมาก น้ำตาไหลซิบๆตลอดเลย ไม่รู้เพื่อนคนอื่นเคยมีฟิวส์นี้มั้ย 

            อันนี้ก็เป็นภาพที่เราถ่ายเก็บไว้เรื่่อยๆตั้งแต่ที่เริ่มเป็น จนกระทั่งหนักขึ้นเรื่อยๆ และภาพสุดท้ายนี่แหละที่เคยเป็นภาพในฝันของเราว่า มันต้องมีทางที่ผิวจะกลับมาใสแบบเดิมสิ และแล้ว ฝันก็เป็นจริง สาบานว่าไม่ใช้แอฟแต่อย่างใด หน้าสดๆชัดๆค่ะ (เราเองยังอึ้งกับตัวเองเหมือนกันนะ ว่าผิวจะกลับมาใสได้แบบนี้เลย แต่คือเรื่องจริง เลยพร้อมรีวิวล่ะ) ประมาณ5-6เดือนเต็มๆที่สู้รบกับสิว 

          แล้วเดี๋ยวมาดูกันค่ะ ว่าเราใช้ไปไอเทมไหนในการดูแลผิวตัวเองบ้าง 

ปล.ที่เรากำลังแบ่งปันประสบการณ์นี้ คือ เราใช้จริงและหายจริง แต่สำหรับผิวหน้าของเพื่อนๆ ปัญหาผิวอาจจะไม่เหมือนเรา ดังนั้นลองปรึกษาคุณวิวดูก่อนก็ได้ค่ะ ว่าสามารถใช้ได้มั้ย คุณวิวเค้าใจดี อธิบายดีมาก ดูแลจนกระทั่งผิวเราดีขึ้น ((ไม่ได้อวยค่ะ เรื่องจริงทั้งนั้น)

 

       พอช่วงที่กลับมาไทย ก็คิดว่า จะหยุดใช้ครีมบำรุงเคาเตอร์แบรนด์ทั้งหมดที่เคยใช้ แล้วซื้อยาทาสิวจากร้านยาเท่านั้น เพราะเราต้องการกำจัดสิวซักตั้งนึงให้หายดีก่อน 

        เราจึงปฏิบัติการกำจัดสิว ไปซื้อยาทาสิวมาจากร้านยาเภสัชกรใกล้ๆบ้าน ก็แนะนำให้เราใช้ยารักษาสิว 2อย่าง คือ Clinda-m(แต้มตรงสิวอักเสบทีมีหนอง) และ Robaz gel (ทาตรงสิวผด) แล้วเราก็ซื้อ Acne-aid สีแดงตามรีวิวของเพื่อนๆในพันทิปมาใช้ล้างหน้าเช้า-เย็น ตอนแรกเราใช้เท่านี้ เพราะครีมบำรุง กันแดดอะไรก็ไม่แตะเลย คือกลัวสิวอุดตันมาก

                                  ......................................

                                        ..........................

เราใช้ Acne-aid ,,, Clinda-m ,,,, Robaz gel ทั้งหมด 3 อย่างนี้ ใช้ต่อเนื่องมาประมาณ 2 เดือน (สิงหา) ก็รู้สึกว่าสิวไม่เพิ่ม สิวเริ่มลดลง แต่ว่ารอยดำเพี๊ยบ แถมมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ และหยาบกร้าน เพราะผิวน่าจะขาดการบำรุงและเราไม่ยอมทาครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดแบรนด์เดิมที่เราใช้ค่อนข้างเหนอะ เราเลยไม่กล้าทา เพราะกลัวสิวบุกหนัก 

                                   .....................................................

                                            ...................................

        จากนั้นเราก็เลยตั้งใจหาสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายจริงๆเหมาะกับคนที่เป็นสิวง่าย เพื่อมาใช้บำรุงผิว ควบคู่กับยาทาสิว เราศึกษาสกินแคร์เพื่อบำรุงผิวด้วยตนเอง ก็มาเจอข้อมูลแบรนด์welpano เคลมว่า ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม เราเลยสนใจ 

         ก่อนนี้เรารู้จักแบรนด์เวชสำอางwelpano มาจากรีวิวนึงในพันทิป จากนั้นก็เริ่มศึกษามาเรื่อยๆว่าเป็นแบรนด์อะไร ปลอดภัยมั้ย เพราะเราไม่กล้าเลือกครีมตามอินเตอร์เน็ต เพราะสมัยนี้ขายกันเกลื่อน บางทีก็กลัวหน้าพังซ้ำพังซ้อน พอศึกษาแล้วดูยูปทูปที่คุณวิวเจ้าของแบรนด์เค้าแนะนำการดูแลผิว แล้วก็ทราบว่าผลิตภัณฑ์นี้มีจำหน่ายที่ร้านขายยาด้วยก็ดูน่าเชื่อถือ แล้วผลิตภัณฑ์นี้เค้าก็มีผ่านdermatologit-tested และมี อย.ชัดเจน แต่เราไม่สะดวกเดินทางไปร้านตามจุดจำหน่าย เราเลยสั่งซื้อทางออนไลน์ line: @welpano เค้าส่งสินค้ามาให้เราไวมาก ราวกับเดินทางไปซื้อเองที่ร้านเลย   

          สำหรับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เราใช้กำจัดสิว และฟื้นผิวครั้งใหญ่ในชีวิตนี้ก็ว่าได้ มีตามนี้จ้าาา 

          1) Welpano extra sensitive lotion cleanser

ปั๊มลงสำลี และแตะที่หน้า5จุด ใช้เช็ดก่อนล้างหน้าตอนเย็น เราใช้แล้วรู้สึกดีกว่าแบบWater เพราะว่าอันนี้เป็นโลชั่น เวลาเช็ดไม่ฝืดผิว ทำให้ไม่ระคายเคือง รู้สึกสิวไม่เห่อ แล้วก็ชอบตรงที่สิวเม็ดเล็กๆหลุดติดสำลีมาเลย ดีงามแฮะ อันนี้น่าจะเป็นจุดที่เราคิดว่าแตกต่างจากคลีนเซอร์ทั่วๆไป 

              2) สำหรับล้างหน้า เราใช้สลับกัน ดังนี้ 

ตอนเช้า >> เราว่าผิวไม่ได้สกปรกอะไร ต้องการความอ่อนโยนมากกว่า ก็ใช้ Welpano facial liquid cleanser ล้างหน้าตอนเช้า มีฟองละมุนนิดๆ เข้าตาไม่แสบ 

ตอนเย็น >> หน้าเจอฝุ่นจากที่ทำงานมาเยอะ เราเลยใช้ Acne-aid ขวดสีแดง อันนี้ล้างแล้วจะรู้สึกผิวแห้งตึงกว่า Welpano liquid cleaser นิดนึง แต่ลักษณะภายนอกคล้ายๆกัน คือ เป็นลิควิดขุ่นๆสีขาว 

 

                3) น้ำเกลือ Klean & Kare 

ซื้อจากร้านยา ใช้เช็ดแทนโทนเนอร์หลังล้างหน้า เช้า&เย็น จริงๆก่อนหน้านี้เราเคยใช้โทนเนอร์แบรนด์นึงที่เป็นเวชำอางเหมือนกัน แต่รู้สึกแสบหน้า เลยลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำเกลืออันนี้แทน ก็รู้สึกสบายผิวดีค่ะ 

แต่บางวันรีบๆ ก็ขี้เกียจเช็ด555++ 

                     4) Clinda-m 

ซื้อมาจากร้านยา ทาตรงสิวหนอง เช้า&เย็น ทาอันดับแรกเลย หลังจากเช็ดน้ำเกลือ

                            5) Welpano whitening cream-gel  

ทาทั่วหน้า เช้า-เย็น ทาต่อจากคลินด้าเอ็ม จากที่อ่านข้อมูลมา เป็น           ครีมเจลบำรุงผิว ไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ จากที่ใช้มาซักพัก 3 เดือนต่อเนื่อง รู้สึกเลยว่า อ่อนโยนจริงๆ เราใช้อันนี้ทารอบดวงตาด้วย ไม่แสบตานะ อันนี้ช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวเราไม่หยาบกร้าน ไม่เหนอะ และไม่แห้งจนเกินไป ก็ลงตัวดีนะ ชอบที่ทาอันนี้ขั้นตอนเดียว แทนครีมบำรุงอื่นๆเลย ช่วยให้รอยสิวจางไว แล้วก็รอยแผลเดิมจากที่เคยบอบช้ำจากการกดสิวมา ก็เริ่มจางค่ะ ปลื้มๆ ไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์อ่ะ 

แม้ว่าตอนนี้สิวหาย หน้าใสแล้ว เราก็ยังคงใช้เวลพาโน่อันนี้เป็นครีมเจลทาบำรุงผิว ทายาวๆไปเลย อ่อนโยนดี ชอบๆ

                     6) Robaz gel 

ซื้อมาจากร้านยา ค่ะ อันนี้ช่วยลดสิวผด ทาต่อจากWelpano cream-gel   เช้า เย็น ถ้าผดหายก็หยุดทาได้เลย 

                          7) Welpano acne gel 

เราใช้แต้มหัวสิวที่บวมๆแดงๆ ที่คลินด้าเอ็มปราบไม่อยู่                               แต้มสิวด้วยWelpano acne gel อยู่หมัดเลย 555++ เวลาแแต้มจะรู้สึกจี๊ดๆนิดนึงนะ กลางคืนแต้ม เช้ามาก็เริ่มยุบล่ะ 

                          8) Mederma intense gel 

พอสิวหายแล้ว ก็ค่อนข้างใจร้อนนิดนึง อยากให้รอยจางไวๆ ก็ใช้Mederma แต้มเฉพาะตรงรอย อย่าทาเยอะนะ เราเคยพอกเยอะๆปรากฏผิวจะลอกๆ     ใช้มาตั้งแต่เป็นหลอดรุ่นเดิม จนตอนนี้เค้าปรับเป็นสูตรนี้ล่ะ เราว่าเป็นเจลลดรอยสิวที่เราชอบมากสุดแล้ว ตั้งแต่ที่เคยลองหลายๆยี่ห้อจากร้านยา 

                              9) Welpano facial sunscreen SPF50 PA+++                                                           Extra light cream 

เนื้อครีมบางเบาสมชื่อดีนะคะ  อยากบอกว่าครีมกันแดดแบบนี้แหละที่เราตามหามานาน แอบน้อยใจ รู้งี้น่าจะเจอกันตั้งนานล่ะ อันนี้เราซื้อตุนทีละ 3 หลอด (กลัวหมด) มีSPFสูง และไม่ระคายเคืองผิว ไม่อุดตัน แถมคุมความมันได้ดี เพราะเราไม่อยากตบแป้งระหว่างวัน เพราะถ้าตบแป้งก็คิดว่าว่าจะสกปรก เลยพยายามหาครีมกันแดดที่คุมความมันได้ดี  เราทำงานบางทีต้องออกแดด แต่เหงื่อออก แต่หน้าไม่เยิ้มเป็นคราบขาว  ชอบตรงที่มีบำรุงลดรอยอยู่ในหลอดครีมกันแดดนี้ด้วยนะ 

ร่ายมาซะยาวเลยเนอะ อันนี้ก็เป็นทริคการดูแลผิวของเราค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังท้อ ให้คิดเสมอว่า ฟ้าหลังฝน ย่อมดีงามเสมอ ^______^ เพียงแต่ค้นหาไอเทมที่เหมาะกับผิวให้เจอ เป็นได้ก็หายได้ ดูอย่างผิวเราสิ เป็นหนักๆหน้าแหกมา ยังฟื้นได้เลย 

อ้อออ.......อีกเรื่องที่อยากฝากเพื่อนๆค่ะ เรื่องระยะเวลาในการเริ่มต้นดูแลผิว เราว่าก็มีส่วนสำคัญนะ อย่าปล่อยให้เป็นเยอะๆแล้วเพิ่งจะมาใส่ใจผิว เพราะมันจะเหนื่อยมาก เพราะตอนแรกก็ชะล่าใจคิดว่าเป็นอุดตันนิดเดียว สักพักเจ้าสิวมักจะพาเพื่อนมาเป็นขบวนถ้าเราไม่ตั้งหลักรับมือดีๆ  สู้ๆค่ะ ^^ 

Like